รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง

รับซื้อเครื่องซักผ้าอุบลราชธานี | รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง รับถึงที่

รับซื้อเครื่องซักผ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อแอร์อุบลราชธานี ,รับซื้อพัดลมอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้เย็นอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้อบผ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อทีวีอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้แช่อุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องทำน้ำแข็งอุบลราชธานี ,รับซื้อเตารีดอุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุบลราชธานี , รับซื้อเครื่องล้างจานอุบลราชธานี

รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง

บริการ จากทีมอุบลราชธานี รับซื้อทุกสิ่งอย่าง เช่น รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อแอร์อุบลราชธานี ,รับซื้อพัดลมอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้เย็นอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้อบผ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องซักผ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อทีวีอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้แช่อุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องทำน้ำแข็งอุบลราชธานี ,รับซื้อเตารีดอุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุบลราชธานี , รับซื้อเครื่องล้างจานอุบลราชธานี

 ท่านสามารถ add line เข้ามาคุยกับเรา เพื่อตีราคาได้ที่ line @webuy หรือโทร  064-2579353   ได้ตลอด 24 hr.

รับซื้ออุบล

เราพร้อมให้บริการ รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อแอร์อุบลราชธานี ,รับซื้อพัดลมอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้เย็นอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้อบผ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องซักผ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อทีวีอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้แช่อุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องทำน้ำแข็งอุบลราชธานี ,รับซื้อเตารีดอุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุบลราชธานี , รับซื้อเครื่องล้างจานอุบลราชธานี

รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อแอร์อุบลราชธานี ,รับซื้อพัดลมอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้เย็นอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้อบผ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องซักผ้าอุบลราชธานี ,รับซื้อทีวีอุบลราชธานี ,รับซื้อตู้แช่อุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องทำน้ำแข็งอุบลราชธานี ,รับซื้อเตารีดอุบลราชธานี ,รับซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุบลราชธานี , รับซื้อเครื่องล้างจานอุบลราชธานี

รับซื้ออุบล

การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าสักชิ้นให้กับบ้านหรือคอนโดมิเนียมของคุณ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจและพิถีพิถันในการเลือก ไม่ต่างจากเฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุตกแต่งอื่นๆ ภายในบ้าน ซึ่งวิธีการเลือกสรรของผู้ใช้งานแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิธีคิดและรสนิยม แต่ถ้าพูดกันตามความเป็นจริงแล้วองค์ประกอบที่ควรพิจารณาหลักๆ ก็จะมีตายตัวอยู่เพียงไม่กี่ปัจจัยดังนี้

  1. ราคาของเครื่องใช้ไฟฟ้า
    นอกจากจะเป็นเรื่องแรกๆ ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจแล้ว ผู้ผลิตหรือผู้ขายก็มักจะชูจุดเด่นในเรื่องของราคา เช่น ราคาถูกกว่า การลดแลกแจกแถม เป็นจุดสำคัญ เนื่องจากราคามักเป็นสิ่งแรกที่เห็นได้ชัดที่สุด แต่จะบอกว่าราคาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่าต้องเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ราคาถูกอย่างเดียวถึงจะคุ้มหรือยิ่งแพงยิ่งดี เพราะราคาไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าจะประหยัดไฟได้มากกว่า ดีกว่า สิ่งที่ควรทำ คือ การพิจารณาราคาควบคู่ไปกับคุณภาพ เปรียบเทียบหลากหลายเจ้าและเลือกเจ้าที่ราคาถูกกว่าแต่คุณภาพพอๆ กัน
  2. คุณภาพ ความปลอดภัยและความน่าไว้วางใจของแบรนด์
    แบรนด์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค การเลือกแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงและคนรู้จักแพร่หลายจึงเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึง นอกจากนี้อย่าลืมตรวจสอบคุณภาพของสินค้าว่า มีตำหนิตรงไหน มีการออกแบบที่ดีหรือไม่ ได้มาตรฐานที่ดีไหมและมีการรับรองคุณภาพจากสถาบันอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีที่สุดและมีความปลอดภัย
  3. จำนวนวัตต์
    ปกติจำนวนวัตต์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะมีบอกไว้บนตัวสินค้าอยู่แล้วซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถคำนวณค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้นภายหลังจากการใช้งานได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเรามีจำนวนวัตต์ของแต่ละประเภทมาฝาก

พัดลมตั้งพื้น : 45-75 วัตต์ , ตู้เย็น 2-12 คิว (ลบ.ฟุต) : 53-194 วัตต์ , เครื่องปรับอากาศ : 680-3,300 วัตต์ , หม้อหุงข้าวไฟฟ้า : 500-1,000 วัตต์, เครื่องดูดฝุ่น : 625-1,000 วัตต์, เครื่องทำน้ำร้อนในห้องน้ำ : 900-4,800 วัตต์, โทรทัศน์สี : 43-95 วัตต์, เครื่องซักผ้า : 250-2,000 วัตต์, เครื่องอบผ้าแห้ง : 650-2,500 วัตต์ และ เครื่องซักผ้าแบบมีเครื่องอบผ้า หรือ เครื่องตั้งอุณหภูมิของน้ำ : 250-2,000 วัตต์

  1. ชนิดและขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า
    เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ของบ้านหรือห้องของคุณ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้ออย่าลืมวัดโต๊ะ ชั้นวางของ ที่จะใช้ตั้งอุปกรณ์ หรือวัดขนาดพื้นที่ที่ต้องการวาง เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากต้องซื้ออย่างอื่นเพิ่มในภายหลัง
  2. การติดตั้งและการบำรุงรักษาหลังการซื้อ
    หลังจากที่คำนวณทั้งราคา คุณภาพ จำนวนวัตต์และความเหมาะสมระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะซื้อกับบ้านหรือคอนโดฯ ของคุณแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย คือ ค่าติดตั้งและค่าบำรุงรักษาที่จะต้องจ่ายในภายหลัง ในกรณีที่เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีขั้นตอนในการติดตั้งที่ยุ่งยาก พยายามเลือกซื้อจากที่ที่รับประกันว่าจะติดตั้งและขนส่งให้ถึงบ้าน ส่วนในเรื่องการบำรุงรักษา ลองสอบถามผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เคยใช้และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าวัสดุของอุปกรณ์นั้นรักษายากไหม ชำรุดง่ายหรือไม่ และหากซ่อมแซมจะต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

ทั้งนี้ทั้งนั้น 5 ข้อที่เป็นองค์ประกอบในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กล่าวมา ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ใช้ในการพิจารณาเท่านั้น ผู้บริโภคแต่ละรายก็คงมีธงในใจหรือองค์ประกอบอื่นๆ เพิ่มเติมในการเลือก แต่สำหรับผู้บริโภครายไหนที่ยังไม่รู้ตั้งแต่สถานที่ที่จะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์

รับจำนองที่ดิน อุบลราชธานี

ประวัติ จังหวัดอุบลราชธานี

ตำนานเมืองอุบล ได้กล่าวกันถึงการสืบเชื้อสายจากเจ้านครเชียงรุ้ง แสนหวีฟ้า ของเจ้าปางคำ พระบิดา ของเจ้าพระตา เจ้าพระวอ โดยกล่าวถึง ปี พ.ศ.2228 เกิดวิกฤตทางการเมือง ในนครเชียงรุ้ง เนื่องจาก จีนฮ่อหัวขาว หรือฮ่อธงขาว ยกกำลัง เข้าปล้นเมืองเชียงรุ้ง เจ้านครเชียงรุ้ง ได้แก่ เจ้าอินทกุมาร เจ้านางจันทกุมารี เจ้าปางคำ อพยพไพร่พล จากเมืองเชียงรุ้ง มาขอพึ่งพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช แห่งเวียงจันทน์ ซึ่งเป็น พระประยูรญาติ ทางฝ่ายมารดา พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โปรดให้นำไพร่พลไปตั้งที่ เมืองหนองบัวลุ่มภู เมือง หนองบัวลุ่มภู จึงอยู่ในฐานะ พิเศษ คือไม่ต้อง ส่งส่วย บรรณาการ มีสิทธิสะสม ไพร่พล อย่างเสรีเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับ เวียงจันทน์ มีชื่อว่า “นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน” สันนิษฐานว่า น่าจะมีฐานะ เป็นเมืองลูกหลวง ต่อมา พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช ให้ เจ้าอินทกุมาร เสกสมรส กับ พระราชธิดาพระองค์หนึ่ง ได้โอรส คือ เจ้าคำ หรือเจ้าองค์นก ให้เจ้า นางจันทกุมารี เสกสมรสกับ พระอุปยุวราช ได้โอรส คือ เจ้ากิงกีศราช และ เจ้าอินทโสม ซึ่งต่อมา คือบรรพบุรุษของ เจ้านายหลวงพระบาง ส่วนเจ้าปางคำ ให้เสกสมรสกับ พระราชนัดดา ได้โอรส คือ เจ้าพระตา เจ้าพระวอ สันนิษฐานว่า ทั้งสองท่านเป็นเสนาบดี กรุงศรีสัตนาคนหุต ตั้งแต่สมัย พระไชยเชษฐาธิราชที่ 2 (ชัยวงค์เว้) พระอัยกาของ พระเจ้า สิริบุญสาร การดำรงฐานะเป็น เจ้านายเชื้อสายพระราชวงศ์ ของพระเจ้าวอ พระเจ้าตา เห็นได้จากหลักฐาน หลายประการ อาทิ การที่หนองบัว ลุ่มภู เป็นเมือง ใหญ่ มีไพร่พลมาก ดังปรากฎเมืองหน้าด่านทั้งสี่ คือ เมืองภูเขียว ภูเวียง เมืองผ้าขาว เมืองพันนา และ การที่ เมืองอุบล ดำรง ฐานะเป็น เจ้าประเทศราชเมื่อเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ของพระมหากษัตริย์ ไทย ต่างจากเมืองเขมร ป่าดงอื่นๆ และเมื่อกำเนิด พ.ร.บ. นามสกุล โปรด พระราชทานนามสกุล “ณ อุบล” อันหมายถึง เชื้อสายเจ้านาย อุบลราชธานี แต่โบราณ เมื่อเจ้านายอุบล ถึงแก่อสัญกรรม ก็มี ประเพณี การทำศพแบบนกหัสดีลิงค์ อันสืบมาจากนครเชียงรุ้ง ในเชียงใหม่ ก็ปรากฎการ ทำศพแบบนกหัสดีลิงค์เช่นเดียวกัน รับซื้อไอแพด แอร์ 6 ipad air 6 อุบลราชธานี

การตั้งเมืองอุบลราชธานี ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช บ้านเมือง ค่อนข้างสงบก็ทรงมี นโยบายที่จะ จัดตั้งเมือง ให้มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการรวบรวมไพร่พลให้เป็นปึกแผ่น เพื่อความสงบสุข สมเด็จฯ กรมพระยาดำรง ราชานุภาพได้ทรงกล่าวถึง เรื่องนี้ว่า  “…รัชกาล ที่ 1 ถึงรัชการที่ 3 ให้เจ้าเมืองร้าง เที่ยวเกลี้ยกล่อมหา ผู้คนมาเป็นพลเมือง โดย ไม่ต้องใช้อำนาจ อาจทำได้ด้วยยินดีด้วยกัน ทุกฝ่ายก็สำเร็จ ประโยชน์ ถึงความมุ่งหมาย เจ้าเมืองไหนเกลี้ยกล่อมคนมาได้มาก ก็ได้ทรัพย์เศษส่วน และได้ผู้คนสำหรับอาศัยใช้สอยมากขึ้น ก็เต็มใจขวนขวาย ตั้งบ้านเมือง ฝ่ายราษฎรที่ไปเที่ยวหลบลี้ เดือดร้อนลำบากมากอยู่ เมื่อรู้ว่า บ้านเมืองเรียบร้อยอย่างเดิม ก็ยินดีที่จะกลับมา โดยมาก……” คงจะเป็น เพื่อสนองตอบ พระบรมราโชบาย ในการตั้งเมืองดังกล่าวมาแล้ว และเพื่อความอุดมสมบูรณ์ในการประกอบอาชีพของ ไพร่บ้านพลเมือง “….ในปี พ.ศ.2329 ( จุลศักราช 1148 ปีมะเมีย นพศก) พระประทุมจึงย้ายครอบครัวไพร่พลมาตั้งอยู่ ณ ตำบลแจระแม ตือตำบล ที่ตั้ง อยู่ทาง ทิศเหนือ เมืองอุบลปัจจุบัน…..”

สถาปนาเมืองอุบลราชธานี

สถาปนาเมืองอุบลราชธานี พ.ศ.2335 พระประทุมสุรราช (ท้าวคำผง) ได้พาพรรคพวกไพร่พลตั้งอยู่ที่ ตำบลห้วยแจระแม (บริเวณบ้าน ท่าบ่อ ในปัจจุบัน) ด้วยความปกติสุขเป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่ง พ.ศ.2334 (จุลศักราช 1153 ตรีศก) อ้ายเชียงแก้ว ซึ่งตั้งบ้านอยู่ที่ตำบลเขาโองแขวง เมืองโขง คิดการกบฎ พาพรรคพวก ไพร่พลเข้ายึดนครจำปาศักดิ์ พระเจ้าองค์หลวง (ไชยกุมาร) เจ้าเมืองซึ่งกำลังป่วยอยู่ก็มี อาการป่วยทรุดหนัก และถึงแก่พิราลัย อ้ายเชียงแก้วจึงยึดเมือง นครจำปาศักดิ์ไว้ได้ ความทราบ ถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) เมื่อครั้งเป็น พระพรหม ยกกระบัตร ยกกองทัพเมืองนครราชสีมามาปราบกบฎอ้ายเชียงแก้ว อย่างไรก็ดีขณะที่กองทัพนครราชสีมายกมาไม่ถึงนั้น พระประทุมสุรราช (ท้าวคำผง) และท้าวฝ่ายหน้า ผู้น้อง ที่ตั้งอยู่บ้านสิงห์ท่า (เมืองยโสธร) ได้ยกกำลังไปรบอ้ายเชียงแก้วก่อน ทั้งสองฝ่าย ได้สู้รบกันที่บริเวณ แก่งตะนะ (อยู่ในท้องที่ อำเภอโขงเจียม) กองกำลัง อ้ายเชียงแก้วแตกพ่ายไป อ้ายเชียงแก้วถูกจับได้ และถูกประหารชีวิต เมื่อกองทัพ เมืองนครราชสีมายกมาถึงเมืองจำปาศักดิ์ เหตุการณ์ก็สงบเรียบร้อยแล้ว จึงพากันยกกองทัพ ไปตีพวกข่า “ชาติกระเสงสวาง จะรายระแดร์” ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกแม่น้ำโขง จับพวกข่าเป็นเชลย ได้เป็นจำนวนมาก จากความ ดีความชอบในการปราบปรามกบฎอ้ายเชียงแก้วนี้เอง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลกมหาราช จึงได้ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ ท้าวฝ่ายหน้าเป็น พระวิไชยราชขัตติยวงศา ครองนครจำปาศักดิ์ และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พระประทุม สุรราช เป็นพระประทุม วรราชสุริยวงศ์ ครอง เมืองอุบลราชธานี พร้อมกับยกฐานะบ้านห้วยแจระแมขึ้นเป็นเมืองอุบลราชธานี เมื่อวันจันทร์ แรม 13 ค่ำ เดือน 8 จุลศักราช 1154 (พ.ศ.2335) ดังปรากฎ ในพระสุพรรณบัตรตั้ง เจ้าประเทศราชในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ว่า “….ด้วยพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้า ผู้ผ่าน พิภพกรุงเทพ มหานครศรีอยุธยา มีพระราชโองการโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ตั้งให้ พระประทุม เป็นพระประทุมวรราช สุริยวงศ์ ครองเมือง อุบลราชธานี ศรีวนาไลยประเทศราช เศกให้ ณ วัน 2 แรม 13 ค่ำ เดือน 8 จุลศักราช 1154 ปีจัตวาศก…”

เจ้าเมืองอุบลราชธานีในอดีต

เจ้าเมืองอุบลราชธานีในอดีต ที่พระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งมีจำนวนทั้งสิ้น 4 ท่านดังนี้

1. พระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (พ.ศ.2335-2338) นามเดิม ท้าวคำผง บุตรเจ้าพระตา เป็นบุคคลสำคัญ ในการสร้างบ้าน แปงเมืองอุบล โปรดให้สร้างคู ประตูเมือง หอโฮงเจ้านายต่างๆ สร้างวัดหลวง และเสนาสนะ อาทิ สิม อาฮาม หอระฆัง พระพุทธรูป สิ่งก่อสร้าง ล้วนเลียนแบบ ศิลปแบบหลวงพระบาง

2. พระพรหมวรราชสุริยวงศ์ (พ.ศ.2338-2388) นามเดิม พรหม น้องชายพระประทุม (คำผง) เป็นบุตรชาย คนเล็กของ เจ้าพระตา เป็นผู้ก่อสร้างวัด ป่าหลวง (วัดป่าหลวงมณีโชติ) นำไพร่พลผู้ศรัทธาสร้างพระพุทธรูป องค์ใหญ่ก่ออิฐถือปูน เป็นที่ เคารพสักการะของชาวอุบลฯ มีชื่อว่า พระเจ้าใหญ่ อินทร์แปลง ปัจจุบัน เป็นพระประธาน ในวิหารวัดมหาวนาราม

3. พระพรหมราชวงศา (พ.ศ.2388-2409) นามเดิม กุทอง สุวรรณกูฏ บุตรพระพรหม (ทิดพรหม) ในสมัยของท่าน ธรรมยุติกนิกาย แพร่หลายในเมือง อุบลฯ เพื่อสนองพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้สร้างวัดสุปัฏนาราม และบรรดา อุปฮาด ราชวงศ์ ราชบุตร ร่วมกัน สร้างวัดศรีทอง (ศรีอุบลรัตนาราม) วัดสุทัศน์ ซึ่งเหตุการณ์สำคัญในสมัยนี้คือการเข้าร่วมสงคราม ขับไล่ญวน
4. เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์วงศ์ (พ.ศ.2409-2425) เจ้าพรหมเทวา (เจ้าหน่อคำ) เป็นพี่ชายเจ้าจอมมารดา ด้วงคำใน รัชกาลที่ 4 เจ้าราชวงศ์ จำปาศักดิ์ บุตรเจ้าเสือหลานเจ้าอนุวงศ์ ในสมัยของท่านได้สร้างวัดไชยมงคล ซึ่งเป็นวัดธรรมยุตที่สี่ ในจังหวัดอุบลราชธานี สิ่งที่พึงสังเกต คือ ความขัดแย้งระหว่าง เจ้าเมืองอุปฮาด ราชวงศ์ รุนแรง เนื่องจากฝ่ายเจ้านายอุบลฯ ไม่พอใจที่ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ เจ้าหน่อคำเป็นเจ้าเมือง ในสมัยนั้นจึง เกิดการทะเลาะ วิวาทขัดแย้งกัน กลั่นแกล้งกันอยู่เสมอ ท้ายที่สุด ราวปี พ.ศ.2412 เกิดกรณี เมืองไซแง ได้เกิดความบาดหมาง ทวีความรุนแรง ต่างฝ่ายต่างเกล่าโทษ ซึ่งกัน และกัน เจ้าพรหม กล่าวหาว่า อุปฮาด ราชวงศ์ ราชบุตร ขัดขวางไม่ให้เก็บเงินส่วย จากไพร่ ข้างฝ่ายอุปฮาด ราชวงศ์ ราชบุตร ก็กล่าวหาว่า เจ้าพรหม ฉ้อราษฎร์บังหลวง ทั้งสองฝ่ายจึงลงมา สู้ความกันที่กรุงเทพฯ จนพากันถึงแก่อสัญกรรม ต่างฝ่ายต่างสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวเป็นจำนวนมาก พ.ศ. 2418 เกิดศึกฮ่อ เจ้าพรหมเทวาถูกเกณฑ์ไปราชการทัพฮ่อ หลังศึกฮ่อได้อัญเชิญพระพุทธรูป 2 องค์ คือ พระทองทิพย์ และพระทอง ประดิษฐาน ที่วัดศรีทอง และวัดไชยมงคล

พ.ศ. 2422 กราบบังคมทูลขอตั้งบ้านท่ายักขุ เป็นเมืองชานุมานมณฑล บ้านพระเหลา เป็นเมืองพนานิคม ให้เมืองทั้งสอง ขึ้นกับเมือง อุบลราชธานี พบหลักฐาน เอกสารการแต่งตั้งเจ้าเมือง องค์ที่ 3 คือ พระพรหมราชวงศา (กุทอง) กล่าวถึงเครื่องยศ ที่ทางกรุงเทพฯ พระราชทานแก่ เจ้าเมืองอุบลฯ ประกอบด้วย

การแต่งตั้งเจ้าเมืองสมัยโบราณ พบหลักฐาน เอกสารการแต่งตั้งเจ้าเมือง องค์ที่ 3 คือ พระพรหมราชวงศา (กุทอง) กล่าวถึงเครื่องยศ ที่ทางกรุงเทพฯ พระราชทานแก่ เจ้าเมืองอุบลฯ ประกอบด้วย พานถมเครื่องในทองคำ 1 สำรับ
เครื่องยศเจ้าเมืองอุบลฯ สมัยโบราณ

  • คนโททองคำ 1 ใบ
  • กระโถนถม 1 ใบ
  • ลูกประคำทองคำ 1 สาย
  • กระบี่บั้งถม 1 อัน
  • เสื้อหมวกตุ้มปี 1 ชุด
  • สัปทนปัสตู 1 ชุด
  • ปืนคาบศิลาคอลาย 1 กระบอก
  • เสื้อเข้มขาบริ้วเลื้อย 1 ตัว
  • ส่านไทยปักทอง 1 ชุด
  • ผ้าปู 1 ผืน

มีพระบรมราชโองการ ให้เจ้าเมืองปกครองราษฎร ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ดังความว่า “…ให้โอบอ้อมอารีต่ออาณาประชาราษฎร์ อย่าเบียดเบียน ข่มเหงไพร่บ้านพลเมือง ปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม ทำนุบำรุงพระสงฆ์ สามเณรให้ปฏิบัติเล่าเรืยนคันถธุระ วิปัสสนาธุระ กำชับ กำชาไพร่บ้านพลเมือง อย่าให้สูบฝิ่น ซื้อฝิ่น กินฝิ่น ให้กระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาปีละ 2 ครั้ง…

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *