|

รับซื้อจอคอม ศรีสะเกษ

รับซื้อจอคอม ศรีสะเกษ รับซื้อจอเกมมิ่ง ศรีสะเกษ รับซื้อจอคอมพิวเตอร์ ศรีสะเกษ

เรารับซื้อ  หน้าจอคอม ใกล้ฉัน รับซื้อจอคอม ศรีสะเกษ สนใจจะขาย จอคอม  ศรีสะเกษ เราพร้อม รับซื้อ  จอคอมพิวเตอร์  ศรีสะเกษ

Add Line id : @webuy    (มีเครื่องหมาย @ด้วย)

หรือ โทรด่วน 064-2579353 มีทีมงานรอรับของ และตีราคาให้ 24 ชั่วโมง !

รับซื้อแอดไลน์

ติดต่อทีมงานผ่านไลน์แอด ตีราคา ไปรับสินค้าหรือนำมาที่ร้าน รับเงินทันที

 

บริการรับซื้อจอคอมมือสอง ไม่ใช้แล้ว อยากเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ อยากได้รุ่นใหม่ นำมาขายกับเราได้  ให้ราคาสูง ไม่กดราคา 

เรารับซื้อ.com มีทีมงานดูแลท่าน 24 ชั่วโมง สามารถแอดไลน์ @webuy เพื่อสอบถามราคาได้เลย ไม่ต้องรอนาน

รับซื้อจอ Samsung  รับซื้อจอ Acer รับซื้อจอ Dell รับซื้อจอ MSI รับซื้อจอ Huawei รับซื้อจอ Xoaimi รับซื้อจอ AOC รับซื้อจอ Lenovo รับซื้อจอ HP

รับซื้อจอ 19 นิ้ว รับซื้อจอ 22 นิ้ว รับซื้อจอ 24 นิ้ว รับซื้อจอ 27 นิ้ว รับซื้อจอ 32 นิ้ว

 

 

รับซื้อจอคอม ศรีสะเกษ

 

MONITOR (จอมอนิเตอร์) จอคอมพิวเตอร์ จอภาพคอม ( ขอบคุณบทความจาก https://computeandmore.com/ )

จอมอนิเตอร์ (Monitor) คืออะไร?
Monitor หรือที่เรียกอีกอย่างว่า VDU ที่ย่อมาจาก Visual Display Unit เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ซึ่งทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ โดยรับข้อมูลแล้วแปลงออกมาเป็นสัญญาณภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพ ตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์ รวมไปถึงสีสันต่าง ๆ ด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ถูกแสดงออกมานั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ได้รับนั่นเอง
หน้าจอ Monitor ในภาษาไทยนั้นสามารถเรียกได้หลายอย่าง เช่น จอภาพ จอภาพคอมพิวเตอร์ หน้าจอคอม เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไรจอมอนิเตอร์นั้นก็ยังคงเป็นตัวกลางที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ หากไม่มีหน้าจอนี้แล้ว ผู้ใช้งานก็จะไม่สามารถรับรู้ผลลัพธ์จากการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ได้เลย

ประเภทของจอมอนิเตอร์ (Monitor)

จอมอนิเตอร์สามารถจำแนกประเภทได้จากแผง Panel (แผงหน้าปัด) ของจอ Monitor โดยแผง Panel ที่ปัจจุบันนิยมใช้มีด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่แบบ TN, แบบ VA และแบบ IPS ดังนี้

  1. จอมอนิเตอร์ แบบ TN (Twisted Nematic)

จอมอนิเตอร์แบบ TN เป็นจอคอมพิวเตอร์ที่มีจุดเด่นสำคัญคือเวลาตอบสนองที่รวดเร็ว สามารถทำอัตรารีเฟรชถึง 240 Hz และที่สำคัญคือ ราคาหน้าจอมอนิเตอร์ประเภทนี้ถูกกว่าประเภทอื่น ทำให้จอแบบ TN เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเกมเมอร์หลายคนที่ให้ความสำคัญกับความเร็วของภาพ
อย่างไรก็ตามในด้านคุณภาพของสีและภาพนั้นไม่โดดเด่นมากนัก เพราะมีมุมมองด้านข้างที่แคบและสีค่อนข้างเพี้ยน ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานด้านภาพและสีที่ต้องการรายละเอียดและความแม่นยำสูง

  1. จอมอนิเตอร์ แบบ VA ( Vertical Alignment)

จอมอนิเตอร์แบบ VA เป็นจอคอมพิวเตอร์ที่มีจุดเด่นคือค่า Contrast Ratio หรืออัตราส่วนความแตกต่างของสีขาวกับสีดำ ยิ่งมีค่ามาก ความคมชัดก็จะมากขึ้นตาม โดยจอภาพแบบ TN และ IPS มีค่า Contrast Ratio อยู่ที่ 1000 : 1 แต่ หน้าจอแบบ VA มีค่า Contrast Ratio ถึง 2000 : 1 หรือถ้าเป็นรุ่นที่สเปคสูงขึ้นก็อาจมีค่านี้สูงไปถึง 4500 : 1 หรือ 6000 : 1 เลยทีเดียว
แต่ในด้านอื่นนั้นหน้าจอคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ก็ไม่ได้โดดเด่นมาก เมื่อเทียบกับจออีก 2 ประเภท ซึ่งทำให้ราคาจอแบบ VA รุ่นมาตรฐานทั่วไปไม่สูงเท่าแบบ IPS แต่ก็ไม่ได้เป็นจอคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดเท่ากับแบบ TN โดยจอประเภทนี้เหมาะสำหรับการดูหนัง ทำให้เรามักเห็นจอภาพคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ถูกนำไปใช้เป็นหน้าจอโทรทัศน์ด้วยนั่นเอง

  1. จอมอนิเตอร์ แบบ IPS (In-Plane Switching)

จอมอนิเตอร์แบบ IPS เป็นจอคอมพิวเตอร์ที่มีจุดเด่นในด้านของภาพและสี เพราะให้มุมมองกว้างที่สุด และสีเพี้ยนน้อยจนแทบไม่เพี้ยนเลย ซึ่งเหมาะอย่างมากกับการใช้งานเกี่ยวกับภาพและสีที่ต้องการรายละเอียดและความแม่นยำสูง เช่น การทำกราฟิก
แต่ด้วยจุดเด่นนี้ก็ทำให้ราคาจอคอมพิวเตอร์ประเภทนี้สูงขึ้นตามไปด้วย โดยทั่วไปสามารถทำอัตรารีเฟรชที่ 60 Hz หากต้องการมากกว่านี้ ราคาจอภาพก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

 

วิธีวัดประสิทธิภาพของหน้าจอมอนิเตอร์ (Monitor)

การวัดประสิทธิภาพของจอภาพคอมพิวเตอร์ สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็จะมีการวัดที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  1. ความสว่างของหน้าจอ

วิธีแรกคือการวัดความสว่างของหน้าจอ โดยค่ามาตรฐานมักจะอยู่ที่ประมาณ 120 – 500 cd/m2 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและแสงสว่างจากภายนอก และความสว่างก็ไม่ควรจะน้อยหรือมากเกินไปด้วย

  1. ขนาดของจอภาพ

ขนาดของจอภาพก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เพราะขนาดของหน้าจอคอมพิวเตอร์จะสัมพันธ์กันกับลักษณะการใช้งาน หากจอภาพมีขนาดที่ไม่เหมาะกับการใช้งานแล้ว ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานของคอมพิวเตอร์ลดน้อยลงไปด้วย

  1. อัตราส่วนของจอภาพ

จอมอนิเตอร์ในปัจจุบันจะมีอัตราส่วนของจอภาพหลัก ๆ 3 อัตราส่วน ได้แก่ 4 : 3 ซึ่งจะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบทั่วไป ส่วน 16 : 9 และ 16 : 10 จะเป็นหน้าจอแบบกว้างหรือที่เรียกว่า Wide Screen ซึ่งหน้าจอในลักษณะนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความกว้างของหน้าจอ เช่น การดูหนัง การทำกราฟิก หรือการตัดต่อวีดิโอ เป็นต้น

  1. ความละเอียดของจอภาพ

ความละเอียดของจอภาพเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยวัดประสิทธิภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยวัดจากจำนวนพิกเซลตามความกว้างและความสูงที่สามารถแสดงผลได้ ได้แก่ Full HD คือความละเอียดของจอภาพ 1920 x 1080 (1080p), 2K (QUD) คือความละเอียดของจอภาพ 2560 x 1440 (1440p) และ 4K (UHD) คือความละเอียดของจอภาพ 4096 x 2160 และ 3840 x 2160

  1. ระดับพิกเซล

ความคมชัดของจอคอมพิวเตอร์สามารถวัดได้ด้วยระยะห่างของพิกเซลสีเดียวกัน (ในหน่วยมิลลิเมตร) หรือเรียกว่าระดับพิกเซล ซึ่งระดับพิกเซลจะแปรผกผันกับความคมชัด คือยิ่งระดับพิกเซลมีค่าน้อย ความคมชัดของภาพก็จะยิ่งมากขึ้น

  1. อัตรารีเฟรช

อัตรารีเฟรช หรือ Refresh Rate คือจำนวนครั้งที่ภาพถูกฉายบนจอมอนิเตอร์ภายใน 1 วินาที ฉะนั้นหากค่าอัตรารีเฟรชยิ่งมากก็จะยิ่งทำให้การแสดงผลของหน้าจอคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

  1. เวลาตอบสนอง

เวลาตอบสนองคือเวลาที่ใช้ขณะพิกเซลเปลี่ยนจากสีดำเป็นขาว และเปลี่ยนกลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง ภายในมิลลิวินาที โดยเวลาตอบสนองนี้ยิ่งน้อยก็จะยิ่งทำให้การแสดงผลของจอภาพคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  1. อัตราส่วนความแตกต่าง

อัตราส่วนความแตกต่าง หรือ Contrast Ratio คืออัตราส่วนความแตกต่างของสีขาว (สีที่ส่องสว่างที่สุด) กับสีดำ (สีที่มืดที่สุด) โดยยิ่งค่านี้สูงมากขึ้น ก็ทำให้หน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงสีที่จัดจ้านและคมชัดมากยิ่งขึ้นไปด้วย

  1. การใช้พลังงาน

นอกจากการแสดงภาพออกมาได้คมชัดและรวดเร็วแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยคือการใช้พลังงานที่พอดี ไม่ควรจะใช้พลังงานมากเกินไป เพราะจะทำให้กินไฟมาก จึงทำให้ปัจจุบันมีหน้าจอคอมหลายรุ่นที่สามารถควบคุมการใช้งานไม่ให้ใช้พลังงานมากเกินไปนั่นเอง

  1. มุมในการมอง

จอคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องแสดงภาพที่ปรากฏบนหน้าจอได้อย่างชัดเจนรอบด้าน แม้จะอยู่ในมุมที่หันเหหน้าจอออกไปแล้วคุณภาพก็ยังไม่ลดลง โดยจอมอนิเตอร์บางประเภทนั้นมีมุมมองที่กว้างที่สุดประมาณ 178 องศา ซึ่งจะทำให้เราเห็นภาพบนจอภาพคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน

 

ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อหน้าจอมอนิเตอร์ (Monitor)

การเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ในแต่ละครั้ง มีสิ่งที่ควรรู้และคำนึงถึงเพื่อให้ได้จอมอนิเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานให้คุ้มกับราคาที่จ่าย โดยข้อควรรู้หลัก ๆ ที่ควรคำนึงถึงมีดังนี้

  1. เลือกจากการใช้งานเป็นหลัก

จอภาพคอมพิวเตอร์ทั้ง 3 ประเภทที่ได้กล่าวไปมีจุดเด่นในการใช้งานที่ต่างกัน เพื่อให้ใช้งานอย่างคุ้มค่า ควรรู้ก่อนว่าต้องการใช้งานแบบไหนเป็นหลัก อย่างจอมอนิเตอร์แบบ TN เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ส่วนจอแบบ VA เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความคมชัดของภาพเช่นการดูหนัง และจอภาพแบบ IPS เหมาะกับการใช้งานกราฟิกหรืองานที่ต้องการคุณภาพของภาพและสีที่สูงนั่นเอง

  1. เลือกจากประสิทธิภาพของหน้าจอที่ต้องการ

จอคอมพิวเตอร์แต่ละประเภทมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้จอมอนิเตอร์ที่ตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด จึงควรทราบถึงรูปแบบการใช้งานหลักของเราเสียก่อน จะช่วยให้เลือกจอภาพคอมพิวเตอร์ที่ถูกใจและมีประสิทธิภาพตรงกับการใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น

  1. เลือกตามงบประมาณที่กำหนดไว้

ราคาจอคอมพิวเตอร์นั้นมีหลากหลายแตกต่างกันไปตามสเปคและประสิทธิภาพ หากเรารู้การใช้งานและประสิทธิภาพที่ต้องการแล้ว ก็จะช่วยให้กำหนดราคาจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในงบประมาณได้ โดยไม่ต้องซื้อหน้าจอราคาสูงจนเกินความจำเป็น

  1. เลือกจากประสบการณ์การใช้งาน

นอกจากข้อควรรู้ในการเลือกทั้ง 3 ข้อที่กล่าวไปแล้ว เราอาจจะนำประสบการณ์การใช้จอคอมพิวเตอร์เครื่องเก่ามาเปรียบเทียบด้วยว่ามีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร เพื่อให้ได้หน้าจอใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่เจอกับปัญหาเก่า ๆ ที่เคยพบมา และอาจเลือกซื้อเผื่อการใช้ในอนาคตเล็กน้อย เพื่อให้เราสามารถใช้งานจอมอนิเตอร์ได้ยาวนานและคุ้มค่ามากที่สุด

 

รับซื้อจอคอม ศรีสะเกษ | รับซื้อคอม ศรีสะเกษ

 

ประวัติ ศรีสะเกษ ( บทความและรูปภาพจาก https://sisaket.cdd.go.th/ )

ศรีสะเกษ เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะภูมิประเทศทางตอนใต้เป็นที่สูง และค่อย ๆ ลาดต่ำไปทางเหนือลงสู่ลุ่มแม่น้ำมูลซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัด ปัจจุบันมีเนื้อที่ 8,840 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยอำเภอ 22 อำเภอ มีประชากรราว 1.45 ล้านคน  ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย ซึ่งพูดภาษาถิ่นต่าง ๆ กัน อาทิ ภาษาลาว (สำเนียงลาวใต้ซึ้งใช้ครอบคลุมทั้งฝั่งอุบลราชธานีและจำปาศักดิ์), ภาษากูย, ภาษาเยอ และภาษาเขมรถิ่นไทย ส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชนและนับถือผีมาแต่เดิม

มีการตั้งถิ่นฐานในจังหวัดศรีสะเกษมาแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนเกิดพัฒนาการที่เข้มข้นในสมัยอาณาจักรขอมซึ่งได้ทิ้งมรดกทางวัฒนธรรมหลายประการไว้ เช่น ปราสาทหินและปรางค์กู่ศิลปะขอมตั้งกระจัดกระจายอยู่หลายแห่ง ครั้นในสมัยอาณาจักรอยุธยา มีการยกบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน(บริเวณใกลๆปราสาทกุด หรือปราสาทสี่เหลียมโคกลำดวน วัดเจ็ก อำเภอขุขันธ์ ในปัจจุบัน) เป็นเมืองขุขันธ์  และในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งอาณาจักรรัตนโกสินทร์ได้ย้ายเมืองไปยังบริเวณตำบลเมืองเก่า (ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ ในปัจจุบัน) แต่เรียกชื่อเมืองขุขันธ์ ตามเดิม กระทั่งยกฐานะเป็น จังหวัดขุขันธ์ เมื่อ พ.ศ. 2459 แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อ พ.ศ. 2481

จังหวัดศรีสะเกษแบ่งการปกครองเป็น 2,557 หมู่บ้าน, 206 ตำบล, 22 อำเภอ ได้แก่

  1. อำเภอเมืองศรีสะเกษ
  2. อำเภอยางชุมน้อย
  3. อำเภอกันทรารมย์
  4. อำเภอกันทรลักษ์
  5. อำเภอขุขันธ์
  6. อำเภอไพรบึง
  7. อำเภอปรางค์กู่
  8. อำเภอขุนหาญ
  9. อำเภอราษีไศล
  10. อำเภออุทุมพรพิสัย
  11. อำเภอบึงบูรพ์
  1. อำเภอห้วยทับทัน
  2. อำเภอโนนคูณ
  3. อำเภอศรีรัตนะ
  4. อำเภอน้ำเกลี้ยง
  5. อำเภอวังหิน
  6. อำเภอภูสิงห์
  7. อำเภอเมืองจันทร์
  8. อำเภอเบญจลักษ์
  9. อำเภอพยุห์
  10. อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ
  11. อำเภอศิลาลาด

แหล่งท่องเที่ยว

จังหวัดศรีสะเกษ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งที่มีลักษณะทางธรรมชาติโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในทางธรณีวิทยา ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจำนวนมาก อาทิ

ทัศนียภาพยามพระอาทิตย์ตก สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

ผามออีแดง

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ
  • อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
    • ปราสาทเขาพระวิหาร
    • ผามออีแดง
  • ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
  • สวนสัตว์ศรีสะเกษ
  • สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    • หอคอยเมืองศรีสะเกษ หรือ หอศรีลำดวน ( Sisaket Tower )
    • พิพิธภัณฑ์เมืองศรีสะเกษ
    • ศูนย์วัฒนธรรมเมืองศรีสะเกษ
  • สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ
  • ปราสาทพระวิหารจำลอง อำเภอเมืองศรีสะเกษ
  • พระธาตุเรืองรอง อำเภอเมืองศรีสะเกษ
    • พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมสี่เผ่าไทยศรีสะเกษ
  • วัดมหาพุทธาราม(วัดพระโต) อำเภอเมืองศรีสะเกษ
  • ศาลหลักเมืองศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ
  • อาคารขุนอำไพพาณิชย์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ
  • โครงการหมู่บ้านทับทิมสยาม ๐๖
    • สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์
    • อ่างเก็บน้ำทับทิมสยาม
    • ผาประสพชัย
    • วัดถ้ำสระพงษ์
    • ศูนย์เพาะเลี้ยงกล้วยไม้บ้านนาจะเรีย
  • บึงนกเป็ดน้ำไพรบึง อำเภอไพรบึง
  • พระพุทธเจดีย์ไพรบึง วัดไพรบึง อำเภอไพรบึง
  • กลุ่มโบราณสถานกู่แก้วสี่ทิศ อำเภอราษีไศล
  • ปราสาทกู่สมบูรณ์ อำเภอบึงบูรพ์
  • ปราสาทสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย
  • ปราสาทสระกำแพงน้อย อำเภออุทุมพรพิสัย
  • ปราสาทบ้านปราสาท อำเภอห้วยทับทัน
  • ปราสาทตาเล็ง อำเภอขุขันธ์
  • ปราสาทโดนตวล อำเภอกันทรลักษ์
  • ปราสาทปรางค์กู่ อำเภอปรางค์กู่
  • ปราสาทตำหนักไทร อำเภอขุนหาญ
  • ปราสาทภูฝ้าย อำเภอขุนหาญ
  • ปราสาทหนองอาราง หรือ ปราสาทบ้านอาราง อำเภอขุนหาญ
  • ปราสาทบ้านสมอ หรือ ปราสาททามจาน อำเภอปรางค์กู่
  • ปราสาทเยอ อำเภอไพรบึง
  • น้ำตกภูละออ อำเภอกันทรลักษ์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก
  • น้ำตกวังใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก
  • น้ำตกห้วยตะไคร้ หรือ น้ำตกตาตอล อำเภอกันทรลักษ์
  • วัดล้านขวด(วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว) อำเภอขุนหาญ
  • น้ำตกสำโรงเกียรติ อำเภอขุนหาญ ในเขตสวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก
  • น้ำตกห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ
  • น้ำตกซำไทร อำเภอขุนหาญ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
  • น้ำตกสามหลั่น อำเภอขุนหาญ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก
  • ทุ่งกระบาลกะไบ อำเภอขุนหาญ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก
  • เมืองใหม่ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์
  • รอยพระพุทธบาทภูสิงห์ อำเภอภูสิงห์
  • น้ำตกห้วยสวาย อำเภอภูสิงห์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
  • น้ำตกถ้ำสระพงษ์ อำเภอภูสิงห์ ใเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
  • น้ำตกนาตราว อำเภอภูสิงห์
  • แก่งพระพุทธบาท ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 บ้านโนน ตำบลรังแร้ง อำเภออุทุมพรพิสัย
  • เขื่อนตาจูอำเภอขุนหาญ
  • ห้วยตะวันอำเภอกันทรลักษ์
  • พลาญจำปาอำเภอกันทรลักษ์

 

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *