รับจำนำอุบล

รับจำนำไอโฟน 13 | รับจำนำ iphone 13

รับจำนำไอโฟน 13 | รับจำนำ iphone 13

รับจำนำไอโฟนอุบล รับฝากอุบล รับขายฝากอุบล รับจำนำไอแพดอุบล รับจำนำสินค้าไอที อุบล ให้ราคาสูง ไม่กดราคา

รับจำนำไอโฟนอุบล ไอโฟน13 ไอโฟน13 ไอโฟน12 ไอโฟน11 ให้ราคาสูง

รับจำนำiphone 13 รับฝากไอโฟน 13 รับจำนำไอโฟน 13 อุบล  รับจำนำ iphone 13 อุบล

รับจำนำไอโฟน 13 promax รับจำนำไอโฟน 13 pro  รับจำนำไอโฟน 13 plus รับจำนำไอโฟน 13

รับจำนำ iphone 13 promax รับจำนำ iphone 13 pro รับจำนำ iphone 13 plus รับจำนำ iphone 13

แอดไลน์ @webuy ( มีเครื่องหมาย @ ด้วย ) เพื่อส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ตีราคาให้ได้เลย

รับจำนำอุบล

*** ไม่รับของโจร ของขโมยมา ทุกกรณี ***

รับจำนำอุบล

 

รับจำนำไอโฟน 13 | รับจำนำ iphone 13

8 ฟีเจอร์ที่มีบน iPhone 13  ( บทความจาก www.techmoblog.com/ )

1. ฟีเจอร์ Photographic Styles

Photographic Styles เป็นพรีเซ็ตตั้งค่าถ่ายรูปตามโทนสีที่ต้องการ ช่วยลดเวลาในการปรับแต่งรูป มีให้เลือก 5 โทนคือ Standard, Rich Contrast, Vibrant, Warm และ Cool ซึ่งแต่ละพรีเซ็ตจะสามารถปรับค่า Tone กับ Warmth ได้อีก

 

2. เทคโนโลยีจอ ProMotion 120Hz

มีให้ใช้กันเสียทีบน iPhone 13 Pro กับ iPhone 13 Pro Max กับเทคโนโลยี ProMotion ที่สามารถปรับอัตรารีเฟรชอัตโนมัติได้สูงสุดที่ 120Hz ทำให้การแสดงผลภาพมีความสมูธขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรารีเฟรชที่ 60Hz

ทั้งนี้ iPhone 13 กับ iPhone 13 mini ยังคงรองรับอัตรารีเฟรชที่ 60Hz เท่านั้น แต่มีข่าวแว่ว ๆ มาว่า iPhone 14 ทุกรุ่น จะรองรับอัตรารีเฟรชที่ 120Hz

 

3. โหมดถ่ายวิดีโอ Cinematic

สำหรับสายวิดีโอด้วย iPhone คงจะต้องร้องว้าวกันอย่างแน่นอน เพราะบน iPhone 13 มาพร้อมกับฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอใหม่ที่มีชื่อว่า Cinematic ที่สามารถปรับระยะชัดลึกได้ จะให้ชัดหน้าเบลอหลัง หรือชัดหลังเบลอหน้า ก็ทำได้แค่แตะบนหน้าจอ

 

4. บันทึกวิดีโอ ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps

อันที่จริง คุณสมบัติการถ่ายภาพวิดีโอที่ความละเอียด 4K ไม่ใช่ของใหม่บน iPhone เพราะ iPhone รุ่นเก่าก็สามารถทำได้ แต่ iPhone 13 เป็นรุ่นแรกที่สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ที่ 60 fps ในขณะที่ iPhone รุ่นเก่า รองรับที่ 4K 30 fps

 

5. ถ่ายภาพ Macro ได้

แม้ว่า iPhone 13 จะไม่มีเลนส์ Macro แต่สามารถถ่ายภาพ Macro ได้ผ่านเลนส์ Ultra Wide เมื่อมีการถ่ายไปยังวัตถุในระยะใกล้มาก ๆ ซึ่งโหมดนี้สามารถเปิด-ปิดได้อีกด้วย

 

6. Night Mode บนเลนส์ Telephoto

อันที่จริง Night Mode หรือโหมดถ่ายภาพตอนกลางคืน ไม่ใช่ของใหม่ เพราะบน iPhone 11 กับ iPhone 12 ก็มีโหมดนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ iPhone 13 เป็นรุ่นแรกที่รองรับ Night Mode บนเลนส์ Telephoto

 

7. รองรับ eSIM คู่

ซิมคู่ ไม่ใช่ของใหม่สำหรับ iPhone 13 เช่นกัน ซึ่งระบบซิมคู่บน iPhone นั้น จะเป็น nanoSIM + eSIM แต่สำหรับ iPhone 13 เป็น iPhone รุ่นแรกที่รองรับระบบซิมคู่แบบ eSIM และไม่จำเป็นต้องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM อีกต่อไป แต่ทั้งนี้ eSIM คู่ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการในแต่ละประเทศด้วยเช่นกัน

 

8. ระบบกันสั่นแบบ Sensor-Shift

ระบบกันสั่นแบบ Sensor-Shift เปิดตัวครั้งแรกบน iPhone 12 Pro Max ก่อน Apple จะตัดสินใจเพิ่มฟีเจอร์ดังกล่าวบน iPhone 13 ทุกรุ่น ซึ่งระบบกันสั่นแบบ Sensor-Shift นั้น จะฝังตัวเซ็นเซอร์ไว้ที่กล้อง ทำให้การถ่ายภาพหรือวิดีโอนิ่ง และมีประสิทธิภาพดีกว่าระบบกันสั่นแบบ Optical หรือ OIS

 

รับจำนำไอโฟน 13 | รับจำนำ iphone 13

เปรียบเทียบ iPhone 13: หน้าจอแสดงผล (บทความจาก https://notebookspec.com/ )

iPhone 13 รุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่น มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Super Retina XDR โดย

  • iPhone 13 Mini: มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว ที่ตัวเครื่องมีความเล็กกว่า iPhone 8 แต่มีความกว้างของหน้าจอที่มากกว่า และ all‑screen OLED display 2340 x 1080 pixel ความละเอียด 476 ppi
  • iPhone 13: มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว all‑screen OLED display 2352 x 1170 pixel ความละเอียด 460 ppi
  • iPhone 13 Pro: มาพร้อม ProMotion รองรับ Adaptive Refresh Rate 120Hz หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว all‑screen OLED display 2352 x 1170 pixel ความละเอียด 460 ppi
  • iPhone 13 Pro Max: มาพร้อม ProMotion รองรับ Adaptive Refresh Rate 120Hz หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว all‑screen OLED display 2778 x 1284 pixel ความละเอียด 458 ppi

ทั้งหมดนี้รองรับ

  • HDR display
  • True Tone
  • Wide color (P3)
  • Haptic Touch

เปรียบเทียบ iPhone 13: การรองรับเทคโนโลยี 5G และการเชื่อมต่อ

i6

iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่นนั้นรองรับเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ที่ให้ความรวดเร็วในการดาวน์โหลดและอัพโหลดที่สูงขึ้น การสตรีมวิดีโอที่มีคุณภาพสูง การเล่นเกมที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น การโต้ตอบภายในแอพที่รวดเร็ว ไปจนถึงการโทร FaceTime แบบความละเอียดสูง ฯลฯ มาพร้อม Wi‑Fi 6, Bluetooth 5.0 และ NFC

เปรียบเทียบ iPhone 13: ชิปประมวลผล

i4

สเปคของทั้ง 4 รุ่นนั้นมาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A15 Bionic ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมแบบ 5 นาโนเมตร พร้อม Neural Engine ซึ่งเป็นระบบ AI ช่วยในการทำงานที่ลื่นไหล ที่ทาง Apple ได้นำมาใช้ใน iPad Mini 6 ด้วยเช่นกัน รองรับการประมวลผลได้สูงสุด 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที ทำงานแบบ 6 Core แบ่งเป็น 2 เน้นทำงานหนัก + 4 แบบทำงานทั่วไปหรือประหยัดพลังงาน โดยรวมแล้วเร็วขึ้น 50% ส่วนชิปกราฟิก 4 – 5 Core ทำงานดีขึ้น 30% – 50% แน่นอนว่าเล่นเกมก็ดีขึ้น และ Neural Engine มี 16 Core ช่วยในการทำงาน ทุกอย่างนี้เพื่อการประมวลผลที่ซับซ้อน

เปรียบเทียบ iPhone 13 : กล้อง

i9 side
  • iPhone 13/iPhone 13 Mini
    • กล้องหลัง เป็นแบบ Dual Camera วางตัวในแนวทแยง กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal, เลนส์ Wide 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น, Focus Pixel 100% ส่วนเลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา รองรับ Deep Fusion
    • กล้องหน้า TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision รองรับ Cinematic Mode และรองรับโหมดกลางคืนด้วย Deep Fusion
  • iPhone 13 Pro
    • กล้องหลัง มี 3 ตัว ได้แก่ เลนส์ Pro Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal, เลนส์ Wide 12MP f/1.5 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel, เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/1.8 มุมมองภาพ 120 องศา และเลนส์ Telephoto 12MP f/2.8 รองรับ Apple ProRAW, Deep Fusion
    • ด้านหลังมี LiDar Scanner ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานในด้าน AR และเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพให้สวยงามและมีมิติมากยิ่งขึ้น
    • กล้องหน้า TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision รองรับ Cinematic Mode รองรับการบันทึกวิดีโอ ProRes สูงสุด 4K ที่ 30 fps (1080p ที่ 30 fps สำหรับความจุ 128GB)
  • iPhone 13 Pro Max
    • กล้องหลัง มี 3 ตัว ได้แก่ เลนส์ Pro Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal, เลนส์ Wide 12MP f/1.5 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel, เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/1.8 มุมมองภาพ 120 องศา และเลนส์ Telephoto 12MP f/2.8 รองรับ Apple ProRAW, Deep Fusion
    • ด้านหลังมี LiDar Scanner ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานในด้าน AR และเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพให้สวยงามและมีมิติมากยิ่งขึ้น
    • กล้องหน้า TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision รองรับ Cinematic Mode รองรับการบันทึกวิดีโอ ProRes สูงสุด 4K ที่ 30 fps (1080p ที่ 30 fps สำหรับความจุ 128GB)

เปรียบเทียบ iPhone 13: ความจุ

สำหรับความจุที่ Apple ให้มาใน iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่นนั้นมีดังนี้

  • iPhone 13 mini จะมาพร้อมตัวเลือกด้านความจุ 3 ตัวเลือก ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB
  • iPhone 13 จะมาพร้อมตัวเลือกด้านความจุ 3 ตัวเลือก ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB
  • iPhone 13 Pro จะมาพร้อมตัวเลือกด้านความจุ 4 ตัวเลือก ได้แก่ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
  • ‌iPhone 13 Pro Max จะมาพร้อมตัวเลือกด้านความจุ 4 ตัวเลือก ได้แก่ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB

เปรียบเทียบ iPhone 13: พอร์ตและสายชาร์จ

S 14901421

iPhone 13 Series นั้นจะได้รับสายชาร์จแบบใหม่โดยจะเป็นสาย USB-Type C to Lightning และ Apple จะไม่มีการแถม Power Adapter และ EarPods มาให้แล้วในกล่อง โดยทาง Apple ให้เหตุผลว่าเป็นในด้านของสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ใน Series นี้ก็ยังมาพร้อมการรองรับการชาร์จด้วยระบบ MagSafe โดย MagSafe Charger จะเป็นอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายแบบแม่เหล็กที่สามารถชาร์จไฟได้ดีกว่าที่ชาร์จไร้สายแบบเดิม และยังรองรับการชาร์จไร้สายผ่าน MagSafe สูงสุด 15W

 

 

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *